มะกรูด หรือ CITRUS HYSTRIX DC. อยู่ในวงศ์ RUTACEAE ถิ่นกำเนิดภูมิภาคเอเชีย ประโยชน์ทางสมุนไพร รากเป็นยากระทุ้งพิษ แก้พิษฝีภายใน แก้เสมหะเป็นพิษ น้ำ มีวิตามินซี ใช้ถูฟันแก้เลือดออกตามไรฟัน ผลสด หมักดองเป็นยา ดองเปรี้ยวเค็มกินเป็นยาวฟอกล้างและบำรุงโลหิตระดู ผิวผล ปรุงเป็นยาลม ขับลมในลำใส ขับระดู ราก ถอนพิษสำแดง แก้ลมจุกเสียด ใช้ผล 1 ผล ตัดจุกคว้านเอาไส้กลางออกแล้วเอามหาหิงคุ์ใส่กลางผล ปิดจุกสุมไฟให้ดำเกรียมกรอบทำผงละลายน้ำผึ้งป้ายลิ้นเด็กอ่อนแรกคลอดเป็นยาขับขี้เทา ขับผายลม แก้ปวดท้องดีมาก ผลสด เผาไฟขยี้สระผมทำให้ผมดกดำและผลิตแชมพูได้
สมุนไพรกับโรคเบาหวาน
เบาหวาน เป็นโรคที่พบได้บ่อยในประเทศไทย ทั้งนี้เกิดจากสาเหตุหลายๆอย่าง ทั้งจากกรรมพันธุ์ อาหารการกิน หรือ การดำรงชีวิตตามวัฒนธรรมที่เปลี่ยนไป สาเหตุของการเกิดโรคคือการที่ตับอ่อนสร้างอินซูลินได้น้อยหรือไม่ได้เลย โดยฮอร์โมนชนิดนี้จะมีหน้าที่คอยช่วยให้ร่างกายเผาผลาญน้ำตาลให้กลายเป็น พลังงาน เมื่ออินซูลินในร่างกายไม่พอ น้ำตาลก็ไม่ถูกนำไปใช้ จงเกิดการคั่งของน้ำตาลในเลือดและอวัยวะต่างๆ และถูกขับออกนอกร่างกายออกมากับปัสสาวะจึงทำให้มีการเรียกโรคนี้ว่าเบาหวาน
ในที่สุด เราสามารถแบ่งชนิดของโรคเบาหวานได้เป็น / ชนิด คือ
1. เบาหวานชนิดพึ่งอินซูลิน (Insulin-dependent diabetes mellitus/IDDM)เป็นชนิดที่พบได้น้อยแต่มีความรุนแรงและอันตรายค่อนข้างสูง มักพบในเด็กและคนที่อายุต่ำกว่า 25 ปี โดยตับอ่อนของผู้ป่วยกลุ่มนี้จะไม่สามารถผลิตสารอินซูลินได้เลย หรืออาจจะผลิตได้น้อยมาก จึงจำเป็นจะต้องพึ่งพาการฉีดอินซูลินข้าทดแทนในร่างกายทุกวัน
2. เบาหวานชนิดที่ไม่พึ่งอินซูลิน (Non-Insulin-dependent diabetes mellitus/NIDDM)เป็นเบาหวานที่พบได้บ่อยในคนที่อายุมากกว่า 40 ปี มักจะมีความรุนแรงของโรงน้อย โดยตับอ่อนของผู้ป่วยยังสามารถที่จะผลิตอินซูลินได้บ้าง แต่ยังไม่เพียงพอที่จะเผาผลาญน้ำตาลจึงยังคงมีน้ำตาลเหลือในร่างกายเหตุผลจำเป็นที่เราจะต้องควบคุมเบาหวานก็เพราะถ้าไมควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในระดับปกติแล้ว ภายใน 10ปี เบาหวานก็จะทำให้เกิดผลข้างเคียงกับอวัยวะสำคัญได้ เช่น การติดเชื้อที่ดวงตา หรือที่ไต หรือการส่งผลทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับระบบหัวใจและความดันโลหิตตามมา
เนื่องด้วยในปัจจุบัน “สมุนไพร”ได้ เข้ามามีบทบาทในการรักษาและควบคุมความรุนแรงของโรคที่มีผลต่อสุขภาพชีวิตของ คนไทยได้หลายๆโรค เบาหวานก็เป็นอีกโรคหนึ่งที่สามารถใช้สมุนไพรในการควบคุมความรุนแรงของโรค ได้ โดยสมุนไพรที่มีผลในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในภาวะปกติ คือ “อบเชย” หรือ ซินนามอน (CINNAMON) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ คือ “Cinnamomum spp.” โดยสารสำคัญที่ใช้คือ เมธิลไฮดรอกซี่ ซาลโคน โพลิเมอร์ (Methylhydroxy Chalcone Polymer หรือ MHCP) ซึ่ง เป็นเป็นสารที่มีคุณสมบัติและความสามารถในการทำงานคล้ายกับฮอร์โมนอินซูลิน คือช่วยเพิ่มความสามารถในกรสันดาปกลูโคสให้ได้มากขึ้น จึงมีผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงและจะไม่ทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูงได้ ถ้ามีการรับประทาน “อบเชย"”อย่างต่อเนื่องเป็น ประจำ การใช้อบเชยควบคุระดับน้ำตาลในเลือดนั้น จะมีความปลอดภัยมากว่าการใช้ยาลดระดับน้ำตาลในเลือด เพราะสามารถรับประทานได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่เกิดผลข้างเคียงกับร่างกายแต่ อย่างใด โดยภายใน1 วันควรรับประทาน”อบเชย”อย่างน้อย 1 กรัม และให้รับหระทานอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ให้ผู้ป่วยทำการตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดผู้ป่วยควบคู่ไปด้วย
จะ เห็นว่าถึงแม้เบาหวานเป็นโรคที่รุนแรงและไม่สามารถรักษาให้หาขาดได้ก็จริง แต่ผู้ป่วยก็สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีคุณภาพโดยการหันมาใช้สมุนไพรไทย ในการควบคุมความรุนแรงของโรค ซึ่งการใช้สมุนไพรไทย นอกจากจะไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงและสามารถใช้ได้อย่างต่อเนื่องแล้ว ยังเป็นการสนับสนุนภูมิปัญญาไทย และเป็นการสนับสนุนการใช้สมุนไพรไทยโดยคนไทยอีกด้วย ติดต่อสอบถามข้อมูลหรือคำปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่ บริษัทผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยจำกัด(เครือองค์การเภสัชกรรม)โทร.0-2527-8235 0-2527-8251 จาก วารสารยา สมาคมร้านขายยา ฉบับที่ 12 พฤศจิกายน-ธันวาคม 2549